ในเช้าอีกวัน ในการอำลาสุโขทัย
ในอีกการเดินทาง ในอีกเป้าหมาย
พิษณุโลก และกรุงเทพมหานครฯ
วัดราชบูรณะ
เข้าเขตวัดโปรดลดความเลว
วัด ราชบูรณะ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออก ทางใต้ของวัดพระศรีมหาธาตุ ตัวพระอุโบสถมีลักษณะพิเศษคือ เศียรนาค ที่ชายคาเป็นนาค 3 เศียร มีลักษณะอ่อนช้อยงดงาม เป็นวัด ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง เชื่อ ว่าเป็นสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เนื่องจากทรงประทับอยู่ที่ เมืองพิษณุ โลกถึง25 ปี และทรงมีบทบาททางบำรุงพระศาสนาที่จังหวัดพิษณุโลก
อุโบสถวัดราชบูรณะเป็นแบบสมัยสุโขทัย แต่แตกต่างตรงที่ช่องเปิดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าช่องเดียว ไม่เป็นแถบยาว และมีหลายช่องแบบที่ปรากฏในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและศรีสัชนาลัย
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ( วัดพระพุทธชินราช )
พระวิหารพระพุทธชินราช เป็นวิหารทรงโรง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช ตัวพระวิหารสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย และได้รับการบูรณะให้มีสภาพดีมาตลอดจนถึงสมัยปัจจุบัน พระวิหารหลังนี้จึงเป็นสถาปัตยกรรมสมัยกรุงสุโขทัยที่มีความสง่างามสมส่วน และยังคงสภาพสมบูรณ์ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทย
ผังอาคารของวัด จะไม่ใช่สี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ล้อมรอบด้วยระเบียงคด มีองค์พระรอบ หันหน้าออกจากผนัง เป็น Approach นำผู้คนให้เดินเข้าสู่พื้นที่ภายในได้อย่างแยบยล
ปรางค์ประธาน รูปแบบของพระปรางค์เมื่อเริ่มสร้างสันนิษฐานว่า เป็นเจดีย์ทรงดอกบัวตูม โดยสร้างครอบพระสถูปเจดีย์ที่สร้างในรัชสมัยของพ่อขุนศรีนาวนำถม เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถขึ้นไป ครองราชย์ที่เมืองพิษณุโลก ได้โปรดให้บูรณะพระปรางค์โดยดัดแปลงพระเจดีย์ ได้ให้เป็นรูปแบบพระปรางค์แบบขอมตามพระราชนิยมในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ผ่านการเดินทางที่ยาวนาน ผ่านการเดินทางมากมายเรื่องราว
ผ่านหลายเหตุการณ์ ผ่านหลากความทรงจำ
ผ่านครั้งหนึ่งในชีวิต ผ่านกว่า 20 วัด 9 วัน
ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน และยังคงจดจำไว้.
( ขอขอบคุณอาจารย์จิ๋ว อาจารย์ทุกท่าน รุ่นพี่ เพื่อนๆทุกคน พี่แป๊ะและลุงพลขับอีกคน ตลอดจนถึงผู้มีอุปการคุณทุกท่าน ในทุกโอกาส ทุกสถานที่สำหรับประสบการณ์ ความรู้ ความมีสวัสดิภาพในการเดินทาง และขอขอบคุณอาจารย์ไก่ สำหรับการเขียน Blog ในครั้งนี้ด้วยครับ . )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น