พักผ่อนสบาย บรรยากาศสบาย เช้าที่สบาย
เดินทางแบบสบายๆ กับหมู่คณะ สู่เกาะคา
วัดไหล่หินหลวง
อยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ในท้องที่หมู่ที่ ๒ ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง
ที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์การ สร้างเมืองลำปางหรือเขลางค์นคร เพราะว่าวัดนี้ได้สร้างขึ้นขณะที่ พระอรหันต์ได้อัญเชิญพระบรมสารีริธาตุขององค์สัมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาไว้ยังม่อนหินแห่งนึ้
คุณค่าของศิลปะปูนปั้นสกุลช่างลำปาง ตลอดจนอุโบสถหลังเล็กประดับด้วยลวดลายไม้ฉลุและแก้วสีต่าง ๆ สร้างจากแรงศรัทธาของเจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิตย์ เจ้าผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย
Scale มิติที่อ้างอิงกับรูปร่าง ลักษณะของคนสมัยก่อน สัดส่วนที่ถูกถ่ายทอด จากตัวอุโบสถหลัก ลดหลั่นมาถึงศาลาราย กำแพง ที่เผยให้เห็นบางส่วนของสถาปัตยกรรมด้านใน และเชื่อมเข้ากับลานกว้างรอบนอก แสดงถึงภูมิปัญญาของคนสมัยเก่าที่ลึกซึ้ง จัดเจน เปี่ยมสามารถ
เผยให้เห็นความเก่า ความแท้ คุณค่าของสถาปัตยกรรม
วัดพระธาตุลำปางหลวง
พบพานอีกสถานที่สำคัญ วัดคู่บ้านคู่เมืองนครลำปาง
วัดพระธาตุลำปางหลวง ( วัดประจำปีนักษัตรฉลู )
วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลําปาง มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวพุทธศตวรรษที่ 13
ตัววัดตั้งอยู่บนเนิน มีบันไดนาคทอดขึ้นสู่ตัววัด กำแพงก่อดินเผาที่มีร่องรอยของการบูรณะ ตั้งประจันอยู่บนเนิน แล้วเชื่อมต่อสู่พื้นเบื้องล่าง การขับเน้นความสำคัญของอาคาร ความสูงค่า และความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา
ทางขึ้นด้านข้างพบเจ้าแม่กวนอิม และ Space ที่คนสมัยสร้างขึ้น กลับทำลาย Space ลานกว้างใต้ต้นตาล
ลานดินกว้างรอบวิหาร ความนิ่ง เกลี้ยงเกลา ขับเน้น สถาปัตยกรรม
วัดพระธาตุลําปางหลวง มีพุทธสถานที่น่าสนใจได้แก่ วิหารหลวง ซึ่งเป็นวิหารขนาดใหญ่ เปิดโล่ง มีกู่บรรจุพระเจ้าล้านทอง เป็นประธานของพระวิหาร หลังพระวิหารมีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
หากขึ้นบันไดนาค จะพบวิหารตั้งประจัน บังคับทางเดินคนให้เข้าสู่วิหาร
วิหารเปิดโล่งด้านข้าง เชื่อมอาคาร และบริบทรอบด้านเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน
ด้านซ้ายของพระเจดีย์เป็นวิหารพระพุทธ เป็นอาคารปิดทึบ มีพระประธานแบบเชียงแสนองค์ใหญ่อยู่เต็มอาคาร หน้าบันของวิหารพระพุทธเป็นลายดอกไม้ติดกระจกสี
วัดปงยางคก
แดดออกแล้ว รถออกแล้ว
ถึงแล้ว ( อย่างงงๆ ) วัดปงยางคก อ.ห้างฉัตร ลำปาง
มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน เพราะเป็นถิ่นกำเนิดของเจ้าหนานติ๊บจ๊าง (เจ้าพระยาสุรวฤาชัยสงคราม) วีรบุรุษแห่งเขลางค์นคร ผู้กู้อิสระภาพจากพม่าข้าศึก
สิ่งก่อสร้างที่สำคัญคือวิหารพระแม่เจ้าจามเทวี มุงด้วยแป้นไม้เกล็ด แต่ในปัจจุบันนี้มุงด้วยดินขอเกล็ด เนื่องจากแป้นไม้เกล็ดได้ผุกร่อนไปตามกาลเวลา วิหารนี้เป็นวิหารขนาดเล็ก ลักษณะทั่วไปของวิหารไม่เหมือนกับวิหารในสมัยปัจจุบัน เป็นวิหารโถงทำด้วยไม้ ตอนล่างเปิดโล่งตลอดไม่มีประตูและหน้าต่าง ตอนสุดท้ายของวิหารมีผนังก่ออิฐฉาบปูนทึบสามด้าน ล้อมกู่พระเจ้าหรือโขงพระเจ้า ลักษณะของการก่อสร้างเป็นศิลปะสถาปัตยกรรมแบบลานนา ยุคหริภุญไชยสกุลช่างเขลางค์ หลังคาสามชั้น เป็นแบบฉบับของลักษณะสถาปัตยกรรมภาคเหนือ มีฐานพระวิหารสูงจากพื้นดินหนึ่งฟุต เดิมคงสูงประมาณสามศอกเศษ แต่เนื่องจากมีน้ำหลากพาดินจากที่อื่นมาท่วมทับถมทุกปีเป็นเวลาพันกว่าปีมา แล้ว อีกประการหนึ่งจากการขนทรายเข้าวัดตามประเพณีก่อพระเจดีย์ทราย จึงทำให้ฐานพระวิหารสูงหลือเพียงหนึ่งฟุต โครงสร้างภายใน แต่งลายรูปต่าง ๆ ลายเขียนน้ำรักปิดทองบนพื้นสีแดง
เดินทางพบบ้านเก่าริมทาง
เอ้า !!!!! ล-----ง
เก็บภาพ และศึกษาสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น ที่เป็นภูมิปัญญาของคนในชุมชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น